ข่าวสาร & กิจกรรม

PSTC Leader in Power Supply Solution
and Renewable Energy

Update: PSTC ลั่นปีนี้รายได้นิวไฮ โตทะลุ100% หลังบุ๊ครายได้ บิ๊กแก๊ส เต็มปี และธุรกิจเดิมโตวันโตคืน Q4 นี้COD โรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 5.6 MW

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 24 สิงหาคม 2561)--------"พระนาย กังวาลรัตน์" แม่ทัพ PSTC ลั่นปีนี้รายได้นิวไฮ โตทะลุ 100% หลังบุ๊ครายได้ บิ๊กแก๊ส เต็มปี และธุรกิจเดิมโตวันโตคืน ตั้งเป้ามีPPA ครบ 200 Mw ภายใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบัน 120 MW เผยQ4 นี้ จ่อคิว COD โรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 5.6 MW จากปัจจุบัน COD แล้ว 30 MW คาดนำ บิ๊กแก๊ส โลดแล่นในSET ช่วงต้นปี63 

นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) PSTC เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า บริษัทฯ มั่นใจรายได้ปีนี้(2561) จะเติบโตมากกว่า 100% ทะลุ 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,362.66 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้แล้ว 1,488.16 ล้านบาท เป็นผลจากการเติบโตของทั้ง 3 ธุรกจหลักประกอบด้วยธุรกิจออกแบบและจำหน่ายติดตั้ง ระบบสำรองไฟฟ้า ธุรกิจออกแบบติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน (Power energy management) โดยคาดว่าจะมีโครงการใหญ่ๆ ของภาครัฐฯ ออกมา โดยเฉพาะโครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่ชายขอบ (USO) ของกสทช. ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่ามีศักยภาพได้รับงานดังกล่าว

ด้านธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน vspp และ spp ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือPPA อยู่ประมาณ 70 เมกะวัตต์ โดยมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์( COD) ไปแล้ว 30 เมกะวัตต์ และกำลังอยู่ระหว่างทยอยสร้างเพื่อขายไฟฟ้าเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส4/61 จะ COD โรงไฟฟ้าอีก 5.6 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายภายในอีก 3 ปีข้างหน้า จะมีPPA ครบ 200 เมกะวัตต์ ซึ่งวันนี้ในเมืองไทยมีอยู่ 70 เมกะวัตต์ และต่างประเทศ (ประเทศเวียดนามบริษัทฯ ถือหุ้น 49% ) มีจำนวน 50 เมกะวัตต์ ดังนั้นเป้าหมาย 200 เมกะวัตต์ จะมาจากการที่บริษัทฯหาเพิ่ม ซึ่งจะเน้นการลงทุนในโครงการที่มีผลตอบแทนดี

ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ LPG, CNG และ LNG ภายใต้การดำเนินการของ บริษัทบิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด หรือ BGT ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่ PSTC ถือหุ้น 51% มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯ จะมีการรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปีในปีนี้ 
โดยปัจจุบัน บิ๊กแก๊ส อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการขนส่งน้ำมันทางท่อภายใต้บริษัท Thai Pipeline Network หรือ TPN ซึ่งทาง บริษัทบิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัดหรือBGT ถือหุ้นอยู่ 100% ขณะที่ขั้นตอนการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม EIA ใกล้เสร็จแล้ว คาดหลังจากนั้นจะทำการลงทุน โดยอยู่ในระหว่างการเชิญทาง Sub-Contracter รายใหญ่ เข้ามาประมูล และ Turn key ทั้งโครงการ ซึ่งคาดว่าช่วงต้นปีหน้าจะเห็นความชัดเจนทุกอย่าง ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ คาดว่าจะทำให้รายได้ของบิ๊กแก๊ส ในอีก 3 ปีข้างหน้าที่เป็นระยะยาว จากรายได้จากค่าขนส่งน้ำมันทางท่อจากจังหวัดสระบุรีไปที่จังหวัดขอนแก่น

"แผนการลงทุนยังเป็นไปตามแผนที่บอกไว้ เรายังมีใบอนุญาตที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมด 70 เมกะวัตต์ แต่วันนี้เราเพิ่ง COD ไป 30 เมกะวัตต์ ในQ4 เราจะ COD อีก 5.6 เมกะวัตต์ ที่เหลือจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป แต่ที่มากกว่านั้นคือเรื่องต่างประเทศ ที่ประเทศเวียดนามซึ่งเรามีข้อตกลงกับทางเวียดนาม โดยเราเข้าไปถือหุ้น49% ในโซลาร์ฟาร์ม ขนาด50 เมกะวัตต์ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการจ่ายเงิน แต่ว่าที่เวียดนามจะขายไฟมิถุนายน ในปี2562 ซึ่งจะเป็นรายได้ที่จะมีต่อไปใน 20 ปี ในส่วนธุรกิจแรกจากงบที่ผ่านมาก็จะเห็นว่มามีการเติบโต มี Backlog และมีโครงการใหญ่ๆ ของภาครัฐฯ ออกมา โดยเฉพาะโครงการ USO ของกสทช. ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ และเรามองว่าเราเองก็มี Solution ที่จะ Suply ในส่วนนี้ ที่ผ่านมาเราได้งานจากส่วนนี้ประมาณเกือบ 300 ล้านบาท สำหรับโครงการแรก และโครงการที่2 เราคาดว่าจะได้มากกว่านี้ เพราะว่างบเม็ดเงินเยอะขึ้น ซึ่งตรงนี้จะทำให้ฐานธุรกิจ Power energy management เติบโต ขณะที่ธุรกิจ2 พลังงานทดแทน เราก็มีการขายไฟเพิ่มมากขึ้น ธุรกิจ3 คือบิ๊ก แก๊ส ที่เราเข้าไปซื้อหุ้นมา โดยเราถือ51% ซึ่งบิ๊กแก๊ส เองยัง Confirm ตัวเลขตามที่บอกไว้ มีรายได้ที่เติบโต และส่งผลกำไรมาให้ PSTC " นายพระนาย กล่าว

สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ ณ สิ้นไตรมาส2/2561 มาจากธุรกิจ Power energy management อยู่ประมาณ 30% ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอยู่ประมาณ 35% และบิ๊กแก๊ส อีก 35%

"เราคาดหวังว่าทำยังไงก็ได้ให้เรามีรายได้ที่มั่นคง และต่อเนื่อง เติบโตในระยะยาว โดยผูกติดกับสัปทาน เพราะบางทีมี Factor อะไรเข้ามากระทบ เราก็เลยพุ่งเป้าไปที่รายได้ที่ยั่งยืน โดยเราตั้งเป้าภายในอีก 3 ปีข้างหน้า จะมี 200 เมกะวัตต์ ซึ่งจากวันนี้ในเมืองไทยเรามีอยู่ 70 เมกะวัตต์ ต่างประเทศ 50 เมกะวัตต์ ซึ่งเราถือหุ้น 49% จะเห็นว่าตอนนี้เราก็เกือบ 100 เมกะวัตต์ ดังนั้นเป้าหมาย 200 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมาจากการที่เราหาเพิ่ม ซึ่งจะเน้นการลงทุนในโครงการที่มีผลตอบแทนดี" นายพระนาย กล่าว

ส่วนความคืบหน้าการนำ บริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด (BIGGAS) เข้าตลาดหุ้น ปัจจุบันบริษัทฯ ได้แต่งตั้ง บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ซึ่งตามแผน ตั้งเป้านำบิ๊กแก๊สเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( SET ) ในช่วงต้นปี 2563